The Hide Away Huahin

Triumph TIGER 900 RALLY นับว่าเป็นรถจักรยานยนต์เเนวแอดเวนเจอร์ของไทรอัมพ์ ที่ออกแบบมาเพื่อการผจญภัยบนทางวิบากอย่างเต็มที่ พร้อมด้วยขีดความสามารถ การควบคุม และความสะดวกสบายในการใช้งานตลอดทั้งวัน ด้วยสมรรถนะและสเปคเครื่องยนต์สามสูบที่ดีที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา เรียกว่าเเรงเกินห้ามใจ

มิติตัวรถของ Triumph TIGER 900 RALLY ก็นับว่าน่าสนใจอีกรุ่น เพราะมีแฮนด์บาร์กว้าง 935 มิลลิเมตร ความสูงไม่รวมกระจกอยู่ที่ 1,452-1,502 มิลลิเมตร ความสูงที่นั่ง 850-870 มิลลิเมตร ระยะระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังอยู่ที่ 1,551 มิลลิเมตร เรคอยู่ที่ 24.4 º ส่วนเทรลอยู่ที่ 145.8 มิลลิเมตร ถังนำมันเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 20 ลิตร เเละมีน้ำหนักรวมสุทธิที่ 196 กิโลกรัม อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 5.2 ลิตร/100 กิโลเมตร

Triumph TIGER 900 RALLY มาพร้อมกับเครื่องยนต์เเบบ 3 สูบแถวเรียงแบบ DOHC 12 วาล์ว ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว โดยมีขุมพลังขนาดใหญ่ถึง 888 ซีซี กระบอกสูบขนาด 78 มิลลิเมตร ส่วนระยะชักอยู่ที่ 61.9 มิลลิเมตร ส่วนอัตราส่วนการบีบอัดอยู่ที่ 11.27:1 สามารถให้กำลังที่ 93.9 เเรงม้าที่ 8,750 รอบต่อนาที โดยมีเเรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 87 นิวตันเมตรที่ 7,250 รอบต่อนาที โดยมีระบบการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงอิเล็คทรอนิคส์แบบ Multipoint sequentia ระบบไอเสียจะเป็นระบบเฮดเดอร์สแตนเลสสตีลแบบเส้นเดียวข้างรถความสูงต่ำแบบ 3 รวมเป็น 1 ไฟนอลไดรฟ์ จะเป็นเเบบโซ่โอริง โดยมันทำงานร่วมกับระบบคลัตช์แบบแบบเปียก, หลายแผ่น ส่วนระบบเกียร์จะเป็นเเบบ 6 สปีด มีสมรรถนะที่สูงอีกรุ่น

เฟรมของ Triumph TIGER 900 RALLY จะเป็นเเบบเฟรมท่อเหล็ก ยึดกับซับเฟรมด้วยสกรู ส่วนสวิงอาร์มเป็นเเบบแขนคู่อลูมิเนียมอัลลอยหล่อขึ้นรูป ส่วนล้อหน้าเป็นเเบบ Tubeless แบบซี่, 21 x 2.15 นิ้ว ในขณะที่ล้อหลังเป็นเเบบ Tubeless แบบซี่, 17 x 4.25 นิ้ว ยางหน้ามีขนาด 90/90-21 ส่วนยางหลังมีขนาด 150/70R17 ทางด้านระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบโช้คหน้าหัวกลับ Showa ขนาด 45 มิลลิเมตร ปรับตั้งการคืนตัวและการยุบตัวแบบแมนนวล, ระยะยุบตัว 240 มิลลิเมตร ในขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ Showa ปรับตั้งพรีโหลดและการคืนตัวแบบแมนนวล, ระยะยุบตัวล้อหลัง 230 มิลลิเมตร ส่วนระบบเบรกนั้น เบรกหน้าเป็นเเบบจานเบรกคู่แบบลอยตัวขนาด 320 มิลลิเมตร, คาลิปเปอร์โมโนบล็อก 4 สูบ Brembo Stylema แม่ปั๊มเบรกหน้าแบบเรดียล, ABS หลายโหมด, ABS แบบช่วยเสริมสมรรถนะการเข้าโค้ง ส่วนเบรกหลังจะเป็นเเบบจานเบรกเดี่ยว 255 มิลลิเมตร. คาลิปเปอร์แบบเลื่อนลูกสูบเดี่ยวของ Brembor, ABS หลายโหมด, ABS แบบช่วยเสริมสมรรถนะการเข้าโค้ง หน้าจอเเสดงผลจะเป็นลักษณะของแผงหน้าปัดมัลติฟังก์ชัน TFT 7" พร้อมมาตรวัดความเร็วดิจิทัล, ทริปคอมพิวเตอร์, มาตรวัดรอบเครื่องดิจิทัล, สัญลักษณ์แสดงตำแหน่งเกียร์, เกจน้ำมันเชื้อเพลิง, สัญลักษณ์เตือนการซ่อมบำรุง, อุณหภูมิแวดล้อม, นาฬิกา และโหมดการขี่ ตัวบอดี้มี 3 สีให้เลือกทั้งสีเขียว, สีดำเเละสีขาว

สนราคาขายของ Triumph TIGER 900 RALLY นั้น ประกาศออกมาที่เรทราคา 579,000 บาท

สำหรับค่ายบิ๊กไบค์จากอิตาลีอย่างดูคาติเเล้ว รถเเต่ละรุ่นนั้นถือว่าเเรงสะใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะรถในตระกูล Diavel ที่เดือดทุกรุ่น โดยเฉพาะรุ่นล่าสุดอย่าง Ducati Diavel 1260 ที่พกพาสมรรถนะที่สูงตามสไตล์ของดูคาติเเละรูปลักษณ์สปอร์ตเร้าใจอย่างยิ่ง

Ducati Diavel 1260 นั้นมาพร้อมกับน้ำหนักรถเปล่าที่ 218 กิโลกรัม ส่วนน้ำหนักรถพร้อมวิ่งจะอยู่ที่ 244 กิโลกรัม เเละน้ำหนัก Wet Weight อยู่ที่ 233 กิโลกรัม ส่วนความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 780 มิลลิเมตร ความยาวของฐานล้ออยู่ที่ 1,600 มิลลิเมตร มุม Rake อยู่ที่ 27 องศา ส่วนระยะเทรลอยู่ที่ 120 มิลลิเมตร ถังบรรจุเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 17 ลิตร สามารถโดยสารได้ 2 คน นับว่าเป็นขนาดตัวรถอีกรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อย

ส่วนทางด้านของสมรรถนะเครื่องยนต์นั้น Ducati Diavel 1260 ก็มาพร้อมกับเครื่องยนต์เเบบ Ducati Testastretta DVT 1262, L-Twin cylinder, 4 valves per cylinder, Dual Spark, Liquid cooled, Desmodromic Variable Timing ที่มีขุมกำลังขนาด 1,262 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก อยู่ที่ 106 x 71.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่  13.0 : 1 เครื่องยนต์สามารถให้กำลัง 159 เเรงม้าที่ 9,500 รอบต่อนาที ส่วนเเรงบิดอยู่ที่ 129 นิวตันเมตรที่ 7,500 รอบต่อนาที ส่วนระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Bosch electronic fuel injection system, Øeq 56 mm elliptical throttle bodies with Ride-by-Wire system ส่วนระบบไอเสียจะเป็นเเบบ Stainless steel pipes and single muffler with twin tail pipes, Catalytic converter and 2 lambda probes มีระบบเกียร์เป็นเเบบ 6 speed ในขณะที่ Primary Drive เป็นเเบบ Straight cut gears, Ratio 1.84:1 มีอัตราที่ 1=37/15, 2=30/17, 3=27/20, 4=24/22, 5=23/24, 6=22/25 ส่วน Final Drive นั้นเป็นเเบบ Chain, Front sprocket Z15, Rear sprocket Z43 ทำงานร่วมกับระบบคลัทช์เเบบ Slipper and self-servo wet multiplate clutch with hydraulic control

ส่วนทางด้านเฟรมของ Ducati Diavel 1260 นั้นได้รับการออกเเบบมาให้เป็นเฟรมเเบบ Tubular steel trellis frame ที่มีความสวยงามเเละเเข็งเเรงเป็นอย่างยิ่ง โดยที่ระบบกันสะเทือนหน้าจะเป็นเเบบ Ø 50 mm adjustable usd fork ส่วนระบบกันสะเทือนหลังจะเป็นเเบบ Monoshock, preload and rebound adjustable, Aluminium casted single-sided swingarm ในส่วนของระบบเบรกจะมีระบบเบรกหน้าเเบบ 2 x Ø 320 mm semi-floating discs, Radially mounted Brembo monobloc 4-piston M4.32 callipers, PR18/19 radial master cylinder, Bosch Cornering ABS Evo ในขณะที่เบรกหลังเป็นเเบบ Ø 265 mm disc, 2-piston Brembo floating calliper, Bosch Cornering ABS Evo ล้อหลังเป็นเเบบ Light alloy casted 8.0"x17" ยางหน้าเป็นเเบบ Pirelli Diablo Rosso III 120/70 ZR17 ส่วนยางหลังเป็นเเบบ Pirelli Diablo Rosso III 240/45 ZR17 หน้าจอเเสดงผลการขับขี่มีขนาด 3.5 นิ้วเเบบ TFT colour display and dedicated warning light display ระบบไฟทั้งโคมไฟหน้า-ท้าย เเละไฟเลี้ยวเป็นเเบบ Full LED lights ทั้งหมด ตัวบอดี้มีสีมาให้เลือกสีเดียวคือสีเทา Sandstone Grey

สนราคาของ Ducati Diavel 1260 ปีล่าสุดนั้น มีการประกาศราคาขายในประเทศออกมาที่เรท 939,000 บาท นับว่าคุ้มค่าทีเดียวกับสมรรถนะของรถเทพๆ เเบบนี้

Triumph TIGER 900 GT เป็นแอดเวนเจอร์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อการผจญภัยบนท้องถนนโดยเฉพาะ มีครบครันทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ทำให้ได้รับความสนใจจากบรรดาผู้ที่ชื่นชอบความเเรงของรถแอดเวนเจอร์ ถือเป็นรถอีกรุ่นของไทรอัมพ์ที่ไม่ควรพลาด

Triumph TIGER 900 GT มีโครงสร้างตัวรถที่ได้รับการออกเเบบมาอย่างเหมาะเจาะ โดยมีแฮนด์บาร์กว้าง 930 มิลลิเมตร ความสูงไม่รวมกระจกอยู่ที่ 1,410-1,460 มิลลิเมตร ความสูงที่นั่ง 810-830 มิลลิเมตร ระยะระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังอยู่ที่ 1,556 มิลลิเมตร เรคอยู่ที่ 24.6 º ส่วนเทรลอยู่ที่ 133.3 มิลลิเมตร ถังนำมันเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 20 ลิตร เเละมีน้ำหนักรวมสุทธิที่ 194 กิโลกรัม เรียกว่าเป็นแอดเวนเจอร์ที่มีขนาดน่าสนใจอีกรุ่น

สมรรถนะเครื่องยนต์ของ Triumph TIGER 900 GT ถือว่าเเรงไม่เบาเลยทีเดียว โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์เเบบ 3 สูบแถวเรียงแบบ DOHC 12 วาล์ว ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว โดยมีขุมพลังขนาดใหญ่ถึง 888 ซีซี กระบอกสูบขนาด 78 มิลลิเมตร ส่วนระยะชักอยู่ที่ 61.9 มิลลิเมตร ส่วนอัตราส่วนการบีบอัดอยู่ที่ 11.27:1 สามารถให้กำลังที่ 93.9 เเรงม้าที่ 8,750 รอบต่อนาที โดยมีเเรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 87 นิวตันเมตรที่ 7,250 รอบต่อนาที โดยมีระบบการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงอิเล็คทรอนิคส์แบบ Multipoint sequentia ระบบไอเสียจะเป็นระบบเฮดเดอร์สแตนเลสสตีลแบบเส้นเดียวข้างรถความสูงต่ำแบบ 3 รวมเป็น 1 ไฟนอลไดรฟ์ จะเป็นเเบบโซ่โอริง โดยมันทำงานร่วมกับระบบคลัตช์แบบแบบเปียก, หลายแผ่น ส่วนระบบเกียร์จะเป็นเเบบ 6 สปีด

เฟรมของ Triumph TIGER 900 GT ได้รับการออกเเบบมาเป็นอย่างดีในเเบบ เฟรมท่อเหล็ก ยึดกับซับเฟรมด้วยสกรู ส่วนสวิงอาร์มเป็นเเบบแขนคู่อลูมิเนียมอัลลอยหล่อขึ้นรูป ส่วนล้อหน้าเป็นเเบบอัลลอยด์หล่อ 19 x 2.5 นิ้ว ส่วนล้อหลังเป็นเเบบอัลลอยด์หล่อ 17 x 4.25 นิ้ว โดยที่ยางหน้ามีขนาด 100/90-19 ส่วนยางหลังมีขนาด 150/70R17 ทางด้านระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบโช้คหน้าหัวกลับ Marzocchi ขนาด 45 มิลลิเมตร ปรับตั้งการคืนตัวและการยุบตัวแบบแมนนวล, ระยะยุบตัว 180 มิลลิเมตร ในขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ Marzocchi, ปรับตั้งพรีโหลดและการคืนตัวแบบแมนนวล, ระยะยุบตัวล้อหลัง 170 มิลลิเมตร ส่วนระบบเบรกนั้น เบรกหน้าเป็นเเบบจานเบรกคู่แบบลอยตัวขนาด 320 มม., คาลิปเปอร์โมโนบล็อก 4 สูบ Brembo Stylema แม่ปั๊มเบรกหน้าแบบเรดียล, ABS หลายโหมด, ABS แบบช่วยเสริมสมรรถนะการเข้าโค้ง ส่วนเบรกหลังจะเป็นเเบบจานเบรกเดี่ยว 255 มม. คาลิปเปอร์แบบเลื่อนลูกสูบเดี่ยวของ Brembor, ABS หลายโหมด, ABS แบบช่วยเสริมสมรรถนะการเข้าโค้ง หน้าจอเเสดงผลจะเป็นลักษณะของแผงหน้าปัดมัลติฟังก์ชัน TFT 7" พร้อมมาตรวัดความเร็วดิจิทัล, ทริปคอมพิวเตอร์, มาตรวัดรอบเครื่องดิจิทัล, สัญลักษณ์แสดงตำแหน่งเกียร์, เกจน้ำมันเชื้อเพลิง, สัญลักษณ์เตือนการซ่อมบำรุง, อุณหภูมิแวดล้อม, นาฬิกา และโหมดการขี่ ตัวบอดี้มี 3 สีให้เลือกทั้งสีเเดง, สีดำเเละสีขาว

สนราคาขายของ Triumph TIGER 900 GT  นั้น ประกาศออกมาที่เรทราคา 549,000 บาท

หากพูดถึงจักรยานยนต์เเนวคลาสสิคเเล้ว ชื่อของไทรอัมพ์ น่าจะเป็นชื่อเเรกๆ ที่เราจะนึกถึง เพราะคงความเอกลักษณ์ของรถเเนวนี้ไว้ได้อย่างครบถ้วน เเละสำหรับ Triumph New Bonneville T120 Gold Line Editions ก็ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่จะได้สัมผัสกับความรู้สึกนั้นได้เป็นอย่างดี

โครงสร้างตัวรถของ Triumph New Bonneville T120 Gold Line Editions นั้นนับว่าออกเเบบได้อย่างลงตัว โดยมีความกว้างของแฮนด์รถที่ 780 มิลลิเมตร ความสูงไม่รวมกระจกอยู่ที่ 1,100 มิลลิเมตร ความสูงที่นั่ง 790 มิลลิเมตร ระยะระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังอยู่ที่ 1,450 มิลลิเมตร เรคอยู่ที่ 25.5 องศา ส่วนเทรลอยู่ที่ 105.2 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 14.5 ลิตร เเละมีน้ำหนักรวมสุทธิที่ 229 กิโลกรัม อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 4.7 ลิตร/100 กิโลเมตร
Triumph New Bonneville T120 Gold Line Editions มีเครื่องยนต์ทรงสมรรถนะ ด้วยการพกพาเครื่องยนต์เเบบระบายความร้อนด้วยของเหลว, SOHC 8 วาล์ว, สูบคู่ขนาน องศาการจุดระเบิด 270 องศา โดยมีขุมพลังขนาดใหญ่ถึง 1,200 ซีซี กระบอกสูบขนาด 97.6 มิลลิเมตร ส่วนระยะชักอยู่ที่ 80 มิลลิเมตร ส่วนอัตราส่วนการบีบอัดอยู่ที่ 11.0:1 สามารถให้กำลังที่ 80 เเรงม้าที่ 6,550 รอบต่อนาที โดยมีเเรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 80 นิวตันเมตรที่ 6,550 รอบต่อนาที โดยมีระบบฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์หลายจุดตามลำดับ ส่วนระบบไอเสียจะเป็นเเบบท่อไอเสียโครเมียม 2 เป็น 2 พร้อมท่อเก็บเสียงโครเมียมคู่ ไฟนอลไดรฟ์ จะเป็นเเบบโซ่ โดยมันทำงานร่วมกับระบบคลัตช์แบบเปียกแบบหลายแผ่น พร้อมระบบช่วยผ่อนแรง ส่วนระบบเกียร์จะเป็นเเบบ 5 สปีด

โดยที่ Triumph New Bonneville T120 Gold Line Editions มีเฟรมเเบบโครงเหล็ก ส่วนสวิงอาร์มเป็นเเบบการประดิษฐ์สองด้าน ส่วนล้อหน้าเป็นเเบบซี่เหล็ก วงล้อเหล็กขนาด 18 x 2.75 นิ้ว ส่วนล้อหลังจะเป็นเเบบซี่เหล็ก วงล้อเหล็กขนาด 17 x 4.25 นิ้ว ส่วนยางหน้ามีขนาด 100/90-18 ยางหลังมีขนาด 150/70-R17 โดยที่มีระบบกันสะเทือนหน้าเป็น ส้อม 41 มิลลิเมตร พร้อมตลับ ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ RSU คู่พร้อมการปรับพรีโหลด โดยที่ระบบเบรกนั้นเบรกหน้าจะเป็นเเบบจานคู่ 310 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์ Nissin ลูกสูบคู่แบบลอย พร้อมระบบ ABS ส่วนทางด้านเบรกหลังเป็นเเบบจานเดี่ยว 255 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์ Nissin ลูกสูบคู่แบบลอย พร้อมระบบ ABS โดยที่แผงหน้าปัดมัลติฟังก์ชั่น LCD พร้อมมาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อก   ไฟหน้าขนาดใหญ่ทรงกลม 1 ดวง เบาะเดี่ยวจำนวนสองที่นั่ง ตัวบอดี้มีสีเทา เรียกว่าสวยงามน่าขับขี่อย่างยิ่ง

สนราคาของ Triumph New Bonneville T120 Gold Line Editions นั้น ประกาศออกมาที่เรทราคา 596,000 บาท

รถจักรยานยนต์ประเภท Cruiser ของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน นั้นถือว่าได้รับความนิยมเเละไว้ใจจากบรรดานักขับขี่จากทั่วโลกเเละสำหรับ STREET BOB เเล้วก็เป็นอีกรุ่นระดับตัวนาน โดยล่าสุด Harley-Davidson STREET BOB 114 ปี 2023 ก็กลับมาสร้างความห้าวหาญกับสไตล์บ็อบเบอร์แบบ Stripped-down ในรูปโฉมสีดำ สุดยอดสมรรถนะที่คัสตอมได้ดั่งใจสไตล์ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน

Harley-Davidson STREET BOB 114 ปี 2023 มีความยาวขนาด 2,320 มิลลิเมตร ส่วนทางด้านของระดับความสูงเบาะ ขณะไม่ได้บรรทุก อยู่ที่ 680 มิลลิเมตร ระยะใต้ท้องรถอยู่ที่ 125 มิลลิเมตร ส่วนระยะเยื้องของตะเกียบหน้าอยู่ที่ 30 ในขณะที่ส่วนท้ายมีขนาด 157 มิลลิเมตร ฐานล้อมีระยะ 1,630 มิลลิเมตร ยางล้อหน้าเป็นเเบบ 100/90B19,57H,BW ส่วนยางล้อหลังเป็นเเบบ 150/80B16,77H,BW โดยที่ยางจะแบบไบแอสแก้มดำ Dunlop Harley-Davidson Series เเละมีความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 13.2 ลิตร ส่วนความจุน้ำมันเครื่องพร้อมไส้กรองอยู่ที่ 4.7 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักขณะขนส่งอยู่ที่ 286 กิโลกรัมเเละมีน้ำหนักพร้อมขับขี่อยู่ที่ 297 กิโลกรัม

ทางด้านของสมรรถนะเครื่องยนต์นั้น Harley-Davidson STREET BOB 114 ปี 2023 มาพร้อมกับเครื่องยนต์รุ่น Milwaukee-Eight 114 ที่มีขุมพลังขนาดใหญ่ถึง 1,868 ซีซี มีความกว้างของกระบอกสูบ 102 มิลลิเมตร มีจังหวะขึ้นลงของลูกสูบที่ 114.3 มิลลิเมตร โดยมีอัตราส่วนการอัดที่ 10.5:1 มีระบบเชื้อเพลิงเป็นระบบช่องฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์แบบต่อเนื่อง (ESPFI) เเละมีท่อไอเสีย catalyst แบบออฟเซ็ต 2-ออก-2 โดยแรงบิดเครื่องยนต์อยู่ที่ 158 Nm มีแรงบิดเครื่องยนต์ (รอบต่อนาที) อยู่ที่ 2750 ส่วนมุมเลี้ยวขวาเเละซ้ายอยู่ที่ 28.5 องศา ส่วนวิธีทดสอบการประหยัดเชื้อเพลิงเป็นเเบบ EU 134/2014 ทำให้มีการประหยัดเชื้อเพลิงอยู่ที่ 5.5 ลิตร/100 กิโลเมตร โดยระบบขับเคลื่อนหลักเป็นเกียร์ 6 สปีด มีอัตราทดของโซ่ 34/46

Harley-Davidson STREET BOB 114 ปี 2023 มีเฟรมรุ่นใหม่ที่ได้รับการออกเเบบใหม่เเละเเข็งเเรงอย่างมาก โดยที่โช้คหน้าเป็นโช้คเทเลสโคปิคที่มีวาล์วแบบ Dual Bending ขนาด 49 มม. พร้อมแคลมป์รัดโช้คแบบอลูมิเนียมสามอัน; สปริงแบบสองค่าในตัว; ยางหุ้มโช้ค ส่วนโช้คหลังเป็นเเบบลูกสูบแบบซ่อนทำงานอิสระ โช้คเดี่ยวพร้อมสปริง ระยะชัก 43 มม. และปรับพรีโหลดแบบ Cam-style ส่วนทางด้านล้อหน้าเเละล้อหลังจะเป็นเเบบอลูมิเนียม Annihilator สีดำ โดยที่จากเบรกเป็นเเบบจานเบรกตันแบบขยายตัวสม่ำเสมอ ส่วนคาลิเปอร์เบรกเป็นเเบบ 4 ลูกสูบหน้ายึดกับที่และ 2 ลูกสูบหลังปล่อยลอย โคมไฟหน้าทรงกลมใหญ่คลาสสิคสวยงาม โดยที่ไฟหน้าแบบ LED ทั้งหมดที่ประกอบด้วยไฟต่ำ ไฟสูง และตำแหน่งไฟที่เป็นเอกลักษณ์, ทรง Bullet แบบหลอดไส้, สไตล์ทรง Bullet, สัญญาณไฟหยุด/ไฟท้าย/ไฟเลี้ยวแบบ LED มัลติฟังก์ชั่น ส่วนจอเเสดงผลเป็นเเบบจอ LCD พื้นที่แสดงผลขนาด 2.14 นิ้ว พร้อมมาตรวัดความเร็ว, เกียร์, เครื่องวัดระยะทาง, ระดับน้ำมัน, นาฬิกา, การเดินทาง, การบอกระยะและมาตรวัดความเร็วรอบ โดยมีอุปกรณ์เสริมมาให้เลือกมากมายทั้งกระเป๋าสัมภาระแบบถอดออกได้ พนักพิงหลังผู้โดยสาร และชิลด์บังลม เพื่อให้เปลี่ยนกลับไปใช้งานในแบบครุยเซอร์ได้อย่างรวดเร็วตัวถังมี 3 สีมาให้เลือกกัน ทั้งสีดำ VIVID BLACK, สีเเดง Redline Red เเละสีเหลือง Industrial Yellow

ราคาขายของ Harley-Davidson STREET BOB 114 ปี 2023 เคาะออกมาที่ 936,000 บาทสำหรับรุ่นที่มีตัวถังสีดำ VIVID BLACK ส่วนรุ่นที่มีตัวถังสีเเดง Redline Red เเละสีเหลือง Industrial Yellow จะมีราคาขายอยู่ที่เรท 941,000 บาท

หนึ่งในตระกูลรถจักรยานยนต์ระดับตำนานของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน อย่าง Cruiser นั้นถือว่าได้รับความนิยมเเละเป็นเอกลักษณ์ของเเบรนด์เลยก็ว่าได้ เเละสำหรับ Harley-Davidson SOFTAIL STANDARD ปี 2023 ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในตำนานที่จะกลับมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อขุมพลัง สไตล์ และประสบการณ์การขับขี่แบบไม่มีด่างพร้อย ไม่ว่าจะขับขี่ไปรอบเมืองหรือตามท้องถนนในชนบทก็สร้างความประทับใจได้อย่างเเน่นอน

โครงสร้างตัวรถของ Harley-Davidson SOFTAIL STANDARD ปี 2023 นั้นก็นับว่าน่าสนใจ ด้วยการที่มีความยาวขนาด 2,320 มิลลิเมตร ส่วนทางด้านของระดับความสูงเบาะ ขณะไม่ได้บรรทุก อยู่ที่ 680 มิลลิเมตร ระยะใต้ท้องรถอยู่ที่ 125 มิลลิเมตร ส่วนระยะเยื้องของตะเกียบหน้าอยู่ที่ 30 ในขณะที่ส่วนท้ายมีขนาด 157 มิลลิเมตร ฐานล้อมีระยะ 1,630 มิลลิเมตร ยางล้อหน้าเป็นเเบบ 100/90B19,57H,BW ส่วนยางล้อหลังเป็นเเบบ 150/80B16,77H,BW โดยที่ยางจะแบบไบแอสแก้มดำ Dunlop Harley-Davidson Series มีความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 13.2 ลิตร ส่วนความจุน้ำมันเครื่องพร้อมไส้กรองอยู่ที่ 4.7 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักขณะขนส่งอยู่ที่ 291 กิโลกรัมเเละมีน้ำหนักพร้อมขับขี่อยู่ที่ 297 กิโลกรัม

Harley-Davidson SOFTAIL STANDARD ปี 2023 มีสมรรถนะเครื่องยนต์ที่เเรงเลยทีเดียว โดยที่บรรจุเครื่องยนต์รุ่น  Milwaukee-Eight 107 ที่มีขุมพลังขนาดถึง 1,745 ซีซี มีความกว้างของกระบอกสูบ 100 มิลลิเมตร มีจังหวะขึ้นลงของลูกสูบที่ 111.1 มิลลิเมตร โดยมีอัตราส่วนการอัดที่ 10.0:1 มีระบบเชื้อเพลิงเป็นระบบช่องฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์แบบต่อเนื่อง (ESPFI) เเละมีท่อไอเสียแบบ ท่อแคทาลิกทรงปืนลูกซองแบบ 2-ออก-2 โดยแรงบิดเครื่องยนต์อยู่ที่ 144 Nm มีแรงบิดเครื่องยนต์ (รอบต่อนาที) อยู่ที่ 2750 ทำให้มีกำลังแรงม้าที่ 84 HP / 63 kW @ 5020 rpm ส่วนมุมเลี้ยวขวาเเละซ้ายอยู่ที่ 28.5 องศา ส่วนวิธีทดสอบการประหยัดเชื้อเพลิงเป็นเเบบ EU 134/2014 ทำให้มีการประหยัดเชื้อเพลิงอยู่ที่ 5.5 ลิตร/100 กิโลเมตร โดยระบบขับเคลื่อนหลักเป็นเกียร์ 6 สปีด มีอัตราทด 34/46

เฟรมของ Harley-Davidson SOFTAIL STANDARD ปี 2023 ถือว่าได้รับการออกเเบบมาใหม่เเละเเข็งเเกร่งตามสไตล์ Cruiser ของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ส่วนแชสซีนั้นมาพร้อมกับโช้คหน้าที่เป็นโช้คเทเลสโคปิคที่มีวาล์วแบบ Dual Bending ขนาด 49 มิลลิเมตร พร้อมแคลมป์รัดโช้คแบบอลูมิเนียมสามอัน เเละมีสปริงแบบสองค่าในตัว โดยทางด้านโช้คหลังก็จะเป็นเเบบลูกสูบแบบซ่อนทำงานอิสระ โช้คเดี่ยวพร้อมสปริง ระยะชัก 43 มม. และปรับพรีโหลดแบบ Cam-style ส่วนทางด้านล้อหน้าเเละล้อหลังจะเป็นเเบบอลูมิเนียม Annihilator สีเงิน ในขณะที่จานเบรกจะเป็นเเบบจานเบรกตันแบบขยายตัวสม่ำเสมอ ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์เบรกเเบบ4 ลูกสูบหน้ายึดกับที่และ 2 ลูกสูบหลังปล่อยลอย พร้อมโคมไฟหน้าดวงกลมขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับหน้ากากขนาดใหญ่สไตล์ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน  ส่วนไฟหน้าแบบ LED ทั้งหมดที่ประกอบด้วยไฟต่ำ ไฟสูง และตำแหน่งไฟที่เป็นเอกลักษณ์, สไตล์ทรง Bullet, สัญญาณไฟหยุด/ไฟท้าย/ไฟเลี้ยวแบบ LED มัลติฟังก์ชั่น, ทรง Bullet แบบหลอดไส้ มาตรวัดจะเป็นจอ LCD พื้นที่แสดงผลขนาด 2.14 นิ้ว พร้อมมาตรวัดความเร็ว, เกียร์, เครื่องวัดระยะทาง, ระดับน้ำมัน, นาฬิกา, การเดินทาง, การบอกระยะและมาตรวัดความเร็วรอบ ตัวถังมีเพียงสีเดียวให้เลือกคือสีดำ VIVID BLACK

สนราคาขายของ Harley-Davidson SOFTAIL STANDARD ปี 2023 เคาะออกมาที่ 850,000 บาท

Suzuki GSX-S750 เป็นบิ๊กไบค์สายสตรีทอีกรุ่นของซูซูกิที่สืบทอดตำนานความเเรงมาจาก GSX-R750 เเละได้มีการพัฒนารูปเเบบเเละสมรรถนะให้ตอบสนองความต้องการของตลาดรถเเนวนี้ในปัจจุบัน อีกทั้งยังได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีมาจากสนามเเข่งขัน MotoGP ทำให้เรื่องของสมรรถนะนั้นหายห่วงเเละเหมาะสมกับวลีเด็ดว่า Predator GSX-S750

ทางด้านของโครงสร้างตัวรถนั้น Suzuki GSX-S750 ก็มาพร้อมกับมิติตัวรถที่มีความน่าสนใจอีกรุ่น โดยมันมีขนาความกว้างที่ 785 มิลลิเมตร ความยาวที่ 2,125 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,055 มิลลิเมตร ความยาวช่วงล้ออยู่ที่ 1,455 มิลลิเมตร เเละมีระยะห่างจากพื้น 135 มิลลิเมตร โดยมีความสูงเบาะนั่งที่ 820 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีความจุ 16 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักโดยรวมอยู่ที่ 213 กิโลกรัม

สมรรถนะเครื่องยนต์ของ Suzuki GSX-S750 ก็ไม่น้อยหน้าใครเลย ด้วยการที่มันพกพาความเเรงขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด ปริมาตรกระบอกสูบ 749 ซีซี โดยเป็นเครื่องยนต์4-stroke, 4-cylinder, liquid-cooled, DOHC โดยมีความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชักจะอยู่ที่ 72.0 x 46.0 มิลลิเมตร ระบบจุดระเบิดเป็นเเบบ Electronic ignition (Transistorized) ทำให้มีอัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 12.3 : 1 ระบบเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Fuel injection ส่วนระบบหล่อลื่นเป็นเเบบ Wet sump มีระบบสตาร์ทเป็นเเบบ Electric โดยที่มีระบบเกียร์เป็นเเบบ ระบบเกียร์ 6-speed constant mesh เป็นรถรุ่นกลางๆ ที่มีสมรรถนะไม่เป็นสองรองใคร

เฟรมของ Suzuki GSX-S750 ได้รับการออกเเบบมาเป็นอย่างดีเเละมีความเเข็งเเกร่งสูงเป็นอย่างมาก ส่วนทางด้านของระบบกันสะเทือนหน้าก็เป็นเเบบ Inverted Telescopic, Coil Spring, Oil Damped โดยผู้ขับขี่สามารถปรับค่า Spring Preload เพื่อให้เหมาะสมกับสไตล์ของผู้ขับขี่และสภาพถนนแลยังมีคุณสมบัติซับแรงสั่นสะเทือนได้อย่างดีเยี่ยม ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ Link Type, coil spring, Oil Damped ในขณะที่เบรกหน้าจะเป็นเเบบ Disc, Twin จาก Brembo ส่วนเบรกหลังจะเป็นแบบ Disc จาก Brembo เช่นเดียวกัน โดยที่มีขนาดยางหน้าเป็นเเบบ 120/70ZR17M/C (58W), Tubeless ส่วนขนาดยางหลัง เป็นเเบบ 180/55ZR17M/C (73W), Tubeless โดยทางด้านของโคมไฟหน้า ส่วนแผงหน้าปัดแสดงผลแบบ Full LCD ที่มาพร้อมมาตรวัดแสดงผลอย่างครบครัน มีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด สามารถปรับความสว่างได้ เพื่อการอ่านหน้าจอได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ก็ยังมีระบบ Traction Control  ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ 3 โหมด เพื่อควบคุมการหมุนของล้อในแต่ละสภาพถนนให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยตัวบอดี้มีสีให้เลือกถึง 3 สีด้วยกัน ทั้งสี Metallic Triton Blue/Glass Sparkle Black (KEL), สี Metallic Oort Gray No.3 / Glass Sparkle Black (BD7) เเละสี Metallic Mat Black No.2 (YKV)

ราคาขายของ Suzuki GSX-S750 นั้นเคาะราคาขายออกมาในประเทศไทยที่เรท 379,000 บาท ถือว่าเป็นเรทราคาที่ดีเเละน่าครอบครองเป็นอย่างยิ่งอีกรุ่น

GPX GR200R DaCorSa คือรถจักรยานยนต์ที่คุณจะได้สัมผัสสู่ความสปอร์ตพันธุ์ปีศาจ สู่จิตวิญญาณสนามแข่งให้คุณเต็มอิ่มกับอารมณ์ความสปอร์ต ที่รอให้คุณมาสัมผัสด้วยตัวคุณเอง

GPX GR200R DaCorSa นั้นมีมิติตัวรถที่น่าสนใจอีกรุ่น โดยมันมีขนาดความกว้างที่ 747 มิลลิเมตร ส่วนความยาวอยู่ที่ 2,020 มิลลิเมตร เเละมีความสูง 1,145 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อ 1,350 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงเบาะอยู่ที่ 815 มิลลิเมตร ส่วนความสูงจากพื้นถึงเครื่องอยู่ที่ 159 มิลลิเมตร วงเลี้ยวแคบสุดที่ 35 องศา โดยประเภทน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้จะเป็นเเบบ gasohol 91,95 มีความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 11 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักรถสุทธิอยู่ที่ 155 กิโลกรัม ถือว่าสมส่วนเลยทีเดียว

ทางด้านสมรรถนะเครื่องยนต์ของ GPX GR200R DaCorSa นั้นก็นับว่าน่าสนใจเมื่อมันมาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ที่มีปริมาตรกระบอกสูบ 198 ซีซี โดยเป็นเครื่องยนต์เเบบ 1สูบ 4จังหวะ SOHC, 4วาล์ว มีระบบระบายความร้อนเเบบ liquid-cooled พร้อมกับหม้อน้ำขนาดใหญ่ หายห่วงเรื่องความร้อน ส่วนกระบอกสูบxช่วงชัก อยู่ที่ 65.5 x 58.8 มิลลิเมตร ระบบจุดระเบิดเป็นเเบบ Electronic Control - FI มีอัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 11:1 พร้อมกับระบบเกียร์เเบบ 6 speed ทำงานร่วมกับโซ่เเบบ DID 428 (O-Ring) เเละมีสเตอร์หน้า 16 ส่วนสเตอร์หลัง 48

GPX GR200R DaCorSa ได้รับการออกแบบมาใหม่ให้เป็นเฟรมถักรอบคัน ทำจากวัสดุเหล็กกล้า ที่แข็งแรงและช่วยคงความบาลานซ์ของตัวรถได้ในทุกองศาการขับขี่ โดยมีระยะเทรล 138 มิลลิเมตร ส่วนมุมแคสเตอร์มีขนาด 25 องศา ส่วนทางด้านของระบบกันสะเทือนนั้น โช้กอัพหน้าเป็นเเบบ Upside down ส่วนโช้กอัพหลังเป็นเเบบ YSS-Mono Shock with Multi-Link,ปรับ Preload ได้สูงสุด 7 ระดับ ส่วนระบบเบรกเป็นเเบบ Hydraulic Brake โดยเบรกหน้าเป็นเเบบ Disc brake / 2 pot มีขนาดดิสเบรกหน้า 276 มิลลิเมตร ส่วนเบรกหลังเป็นเเบบ Disc brake / 1 pot มีขนาดดิสเบรกหลัง 220 มิลลิเมตร ส่วนวงล้อ หน้า/หลัง เป็นเเบบ Aluminum Alloy โดยขนาดล้อหน้า 100/80-17" (Tubeless) ส่วนขนาดล้อหลัง 140/70-17" (Tubeless) เป็นยาง IRC รุ่น RX-01,RX-01RZ ส่วนลมยางหน้า 30 psi | หลัง 36 psi โดยที่ระบบไฟส่องสว่างดีไซน์ล้ำ ทันสมัย แบบ FULL LED รอบคัน ทั้ง ไฟหน้า ไฟ DRL (Daytime running light) ไฟท้าย ไฟเลี้ยวและ ไฟฉุกเฉิน ที่ส่องสว่าง คมชัด เพิ่มความปลอดภัยในทุกการเดินทาง โดยมีระบบจุดระเบิด 12V 6.3Ah ส่วนเรือนไมล์เป็นเเบบ FULL DIGITAL LED METER เบาะนั่งแบบ 2 ตอน ทรงสปอร์ตออกแบบมาเพื่อให้รับกับสรีระของผู้ขับขี่และผู้ซ้อน กุญแจลักษณะพิเศษดีไซน์สายพันธุ์สปอร์ต ที่บ่งบอกถึงความเป็น GPX หน้าจอแสดงผลดีไซน์สุดล้ำ ทันสมัยด้วยระบบดิจิตอล Full LED พร้อมมาตรวัดบอกข้อมูลอย่างครบครัน โดยตัวรถมี 2 สีให้เลือกกันทั้งสีเเดงเเรงฤทธิ์ เเละสีดำดุดัน

สนราคาขายของ GPX GR200R DaCorSa นั้น เคาะราคาขายออกมาที่ 89,500 บาท นับว่าเป็นราคาสุดคุ้มเลยทีเดียว

สำหรับนักบิดที่ต้องการสัมผัสกับเรื่องราวที่เเสนจะพิเศษเเละประสบการณ์ใหม่ที่เหนือกว่าทุกจินตนาการต้องไม่พลาดมาสัมผัสกับบิ๊กไบค์สไตล์ทัวร์ริ่งอย่าง Honda GOLDWING 2022 ที่ได้รับการดีไซน์มาเป็นอย่างดี เเละเชื่อมั่นได้เลยว่ามันจะสร้างความเพลิดเพลินในทุกการขับขี่อย่างเเน่นอน

Honda GOLDWING 2022 มาพร้อมกับขนาดของตัวรถที่ใหญ่โตด้วยความกว้าง 895 มิลลิเมตร ความยาวที่ 2,615 มิลลิเมตร เเละความสูงที่ 1,430 มิลลิเมตร ส่วนระยะห่างช่วงล้ออยู่ที่ 1,695 มิลลิเมตร ทางด้านระยะห่างจากพื้นอยู่ที่ 130 มิลลิเมตร  มีความสูงของเบาะ 745 มิลลิเมตร ทางด้านของมุมคาสเตอร์/ระยะเทรล อยู่ที่ 30.5°/ 109 มิลลิเมตร โดยมีความจุน้ำมันเชื้อเพลิง 21 ลิตร มีน้ำหนักสุทธิอยู่ที่ 388 กิโลกรัม นับว่าเป็นรุ่นใหญ่ขนานเเท้

ขุมกำลังเครื่องยนต์ของ Honda GOLDWING 2022  นั้นมีขนาดใหญ่มากด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1,833 ซีซี โดยเป็นเครื่องยนต์รุ่น SC79E เเบบ Liquid-cooled 4-stroke 24 valve SOHC flat-6 ส่วนทางด้านของความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 73.0 x 73.0 มิลลิเมตร  อัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 10.5 : 1 ส่วนระบบคลัทช์เป็นเเบบ Automatic clutch wet multiplate type โดยมีระบบส่งกำลังเเบบ 7-Speed automatic DCT, plus reverse and walking mode ทำงานกับระบบเฟืองท้ายที่เป็นเเบบ Shaft โดยมีอัตราทดรอบ/เส้นรอบวงล้อ อยู่ที่ 1.795 / 0.972 / 2.615 ส่วนระบบเกียร์นั้นจะเป็นเเบบ 1st gear : 2.166 2nd gear : 1.695 3rd gear : 1.304 4th gear : 1.038 5th gear : 0.820 6th gear : 0.666 7th gear : 0.521 โดยระบบจุดระเบิดเป็นเเบบ Full transistorized ignition เเละมีระบบการติดเครื่องยนต์เป็นเเบบ Electric w/ Integrated starter generator system (ISG) เรียกว่าจัดหนักจัดเต็ม เเรงสะใจกันไปเลย

Honda GOLDWING 2022 นั้นเป็นเฟรมรุ่นใหม่ที่ มีระบบกันสะเทือนหน้าหลังที่มีความเเข็งเเรงทนทาน โดยมีระบบห้ามล้อหน้า เป็นเเบบ Hydraulic dual 320mm discs, ABS ส่วนระบบห้ามล้อ หลัง เป็นเเบบ Hydraulic single 316mm disc, ABS โดยมีขนาดยางหน้า 130/70R18M/C 63H ส่วนขนาดยางหลัง 200/55R16M/C 77H โดยมี 2 สีให้ได้เลือกกันทั้งสี GUNMETAL BLACK METALLIC (BLK) เเละสี PEARL GLARE WHITE (WHT) ส่วนหน้าจอเเสดงผลนั้นเป็นเเบบ LCD/TFT ขนาด 7 นิ้ว เเสดงข้อมูลครบถ้วน โดยมีลำโพง ขนาด 45 วัตต์ เสียงดังฟังชัดคุณภาพดีอย่างมาก รองรับการเชื่อมต่อเเบบ bluetooth พร้อมกับกล่องเก็บของ 3 ใบ โดยมีด้านข้าง 2 ใบ เเละที่ด้านหลังขนาด 61 ลิตรอีกหนึ่งใบซึ่งสามารถใส่หมวกกันน็อคได้ 2 ใบ ส่วนเบาะนั่งนั้นถูกออกเเบบให้กับสรีระของผู้ขับขี่เเละผู้ซ้อนท้าย พร้อมพนักพิงขนาดใหญ่เเละมือจับขนาดใหญ่ของผู้ซ้อน

โดยสนราคาของ Honda GOLDWING 2022  นั้นเคาะราคาขายกันออกมาที่ 1,340,000 บาท นับว่าเป็นราคาที่เเรงเเต่ก็คุ้มค่ากับสเปกของรถที่จะได้รับ ถือว่าเป็นอีกรถบิ๊กไบค์ทัวร์ริ่งที่น่าขับขี่อีกรุ่นของฮอนด้า

Indian Chief Dark Horse เป็นรถจักรยานยนต์อีกรุ่นที่ Indian Motorcycle สุดภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ด้วยการออกแบบเหนือกาลเวลาที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ของ Chief  เเละสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่ทรงพลังยิ่งกว่าที่คุณเคยสัมผัสจากรถรุ่นอื่น ก็ทำให้มันได้รับความสนใจอย่างยิ่ง

Indian Chief Dark Horse มาพร้อมกับความยาว 2,286 มิลลิเมตร ความกว้าง 922 มิลลิเมตร เเละมีความสูง 1,253 มิลลิเมตร Lean Angle อยู่ที่ 31 องศา ส่วน Rake อยู่ที่ 29 องศา เเละเทรลอยู่ที่ 131.5 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อที่ 1,626 มิลลิเมตร ความสูงเบาะที่นั่งอยู่ที่ 662 มิลลิเมตร ระยะความสูงจากพื้นอยู่ที่ 125 มิลลิเมตร ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 15.1 ลิตร น้ำหนักรถเปล่าอยู่ที่ 294 กิโลกรัม น้ำหนักรถเมื่อรวมน้ำมันเชื้อเพลิงเต็มถังอยู่ที่ 304 กิโลกรัม เเละน้ำหนักรถรวมบรรทุกอยู่ที่ 522 กิโลกรัม นับว่าเป็นรถที่มีมิติตัวรถขนาดใหญ่เอามากๆ อีกรุ่น

Indian Chief Dark Horse มาพร้อมกับสมรรถนะที่ทรงพลังอย่างยิ่ง ด้วยเครื่องยนต์เเบบ Thunderstroke 116 ที่ระบายความร้อนด้วยลม มีความจุขนาดใหญ่ถึง 1,890 ซีซี มีกระบอกสูบขนาด 103.2 มิลลิเมตร X 113 มิลลิเมตร อัตรากำลังอัดอยู่ที่ 11.0:1 มีระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์เป็นเเบบ Closed loop fuel injection / 54 mm bore ให้กำลังสูงสุด ที่ 3,200 รอบต่อนาที เเละมีแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 162 นิวตันเมตร พร้อมกับ Gear Drive Wet Clutch ที่ทำงานร่วมกับระบบคลัทช์เเบบ Wet, Multi-Plate พร้อมกับเกียร์เเบบ 6 สปีด นับว่าเป็นอีกรุ่นของ Indian Motorcycle ที่พกพาสมรรถนะขั้นสูง

เฟรมของ Indian Chief Dark Horse ได้รับการออกเเบบมาใหม่ทั้งหมด ให้มีความเเข็งเเกร่งเเละทรงประสิทธิภาพ โดยทำงานร่วมกับระบบกันสะเทือนหน้าเเบบ Telescopic Fork/132 มิลลิเมตร ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นเเบบ Dual Shocks w/ adjustable preload / 75 มิลลิเมตร มีระบบเบรกล้อหน้าเป็นเเบบ Single / 300mm Semi-Floating Rotor / 4 Piston Caliper ส่วนเบรกล้อหลังเป็นเเบบ Single / 300mm Floating Rotor / 2 Piston Caliper ยางหน้าเป็นเเบบ Pirelli Night Dragon 130/60B19 61H ส่วนยางหลังเป็นเเบบ Pirelli Night Dragon 180/65 B16 81H โดยที่ล้อจะเป็นเเบบ Machine Highlighted Cast Black 19" x 3.5" / 16" x 5" มีท่อไอเสียเป็นเเบบ Dual Exhaust w/ Crossover ตัวถังได้รับการออกเเบบโดยใช้สีดำเป็นหลักตั้งแต่บังโคลนหน้าจนถึงบังโคลนหลังผสมกับสีดำเงาทำให้ลงตัวในทุกมุมมอง เบาะนั่งแบบเดี่ยวที่มีศูนย์ถ่วงต่ำทำให้ผู้ขี่มีความมั้นใจมาพร้อมกับที่พักเท้าแบบ mid-control ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับตัวรถ ส่วนไฟหน้า LED เต็มรูปแบบ ทำให้คุณมองเห็นอย่างชัดเจนในที่แสงน้อย เเละมีกุญแจแบบ Keyless, ที่ชาร์ท USB, Cruise Control, ABS และยาง Pirelli Night Dragon ส่วนจอเเสดงผลการขับขี่เป็นเเบบจอสัมผัสทรงกลมขนาด 4 นิ้ว ใช้งานง่ายสะดวกต่อการมองเห็น, แสดงผลอย่างแม่นยำไม่ว่าจะเป็น ความเร็ว, Ride Mode, ตอบรับสายโทรศัพท์และควบคุมเพลงของคุณผ่านระบบ Bluetooth ทำให้การขับขี่ของคุณสนุกขึ้นไปอีกระดับ ตัวบอดี้มี 2 สีให้เลือกกัน คือ สีดำ Black Smoke อันดุดัน ทรงพลัง เเละสีเขียว Alumina Jade Smoke ที่สวยงาม

ราคาขายของ Indian Chief Dark Horse นั้นเคาะราคาเริ่มต้นออกมาที่ 1,190,000 บาท ถือว่าเป็นรถอีกรุ่นที่น่าสนใจของ Indian Motorcycle